วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2559

จาร์เค็นพร้อมแต่งตัวเข้าตลาดฯปี 61 ทุ่มงบกว่า 30 ล้าน เปิดตัว FunBox รุกธุรกิจรีเทลไลฟ์สไตล์ ปรับลุคอีกครั้ง ตอกย้ำความเป็นดีไซน์เมคเกอร์


          จาร์เค็น เผยผลประกอบการธุรกิจช่วง 2 ปี เติบโตต่อเนื่อง เพราะปรับแผนธุรกิจรองรับก่อนแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯในปี 61 แย้มแผนครึ่งปีหลัง 59 เน้นตลาดดีไซน์รีเทล แฟชั่น โปรดักซ์ และการสร้างแบรนด์ ทั้งเน้นสร้างพันธมิตรใน - นอกประเทศ เตรียมงานดีไซน์คุณภาพสูงเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย ล่าสุดทุ่มงบ 30 ล้านบาท ขยายไลน์ธุรกิจไลฟ์สไตล์ด้วยโปรเจกต์ เปิดพื้นที่ สร้างสรรค์ รวมทุกแบรนด์ของกลุ่มไว้ในพื้นที่เดียว ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 400-450 ล้านบาท โต 5-10% คาดอีก 2 ปี ธุรกิจรีเทล ไลฟ์สไตล์ แชร์ส่วนแบ่งรายได้อีก 100 ล้านบาท หรือ 20 - 25%
         ดร.กุลเดช  สินธวณรงค์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท จาร์เค็น จำกัด เปิดเผยว่าในช่วงระยะเวลา 2  ปีที่ผ่านมา บริษัทฯมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการวางรากฐานกำหนดนโยบายและควบคุมดูแลให้เป็นไปตามทิศทางของธุรกิจองค์กรอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน ที่มีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปี 2561 แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
       สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในครึ่งปีหลัง 2559 จะเน้นตลาดดีไซน์aรีเทล แฟชั่น โปรดักซ์ และการสร้างแบรนด์ ซึ่งการขยายการลงทุนในปีนี้บริษัทฯยังคงเน้นสร้างพันธมิตรทั้งในและนอกประเทศที่แข็งแกร่ง ในแผนการตลาดที่แตกต่างแต่อยู่ร่วมกัน แลกเปลี่ยนสิ่งที่มีเหมือนกัน เข้าสู่ Design Business ทุกรูปแบบอย่างเต็มตัวทั้งสินค้าและบริการงานออกแบบ เน้นงานดีไซน์คุณภาพสูงเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งคงไม่มีการลงทุนเพิ่มเติม นอกจากการตอกย้ำตลาดใหม่ที่กำลังจะดำเนินการ ซึ่งได้ศึกษาโครงสร้างของดีไซน์รีเทลมาหลายปีแล้ว
       ล่าสุดบริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณ 30 ล้านบาท ในการขยายไลน์ธุรกิจไลฟ์สไตล์ด้วยโปรเจกต์ FunBox ที่รวมเอาหลากหลายแบรนด์ภายใต้กลุ่มบริษัท จาร์เค็น ทั้งบริษัทออกแบบ โรงเรียนสอนดีไซน์ และเอเจนซี่มารวมกันบนพื้นที่อาคาร 4 ชั้น (Boxy space) แบ่งพื้นที่ภายในเป็น 4 ชั้น ให้เป็นพื้นที่สำหรับสร้างสรรค์แนวคิดไอเดียให้กับ 20 นักคิด ได้ทำงานในพื้นที่ที่ออกแบบให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น ให้แรงบันดาลใจในการทำงานด้วยสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยผลงานทางด้านความคิดสร้างสรรค์ ให้มีความคิด จินตนาการที่โลดแล่น เป็นการรวมเอาบริษัท (แบรนด์) ต่างๆมาไว้เป็นหนึ่งเดียว โดยอาคารดังกล่าวเป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้เรื่องงานดีไซน์ ความคิดสร้างสรรค์ผ่านสภาพแวดล้อมรอบๆ ที่มีเป็นสถานที่ที่นักออกแบบ ศิลปิน หรือบุคคลทั่วไปได้มาสนุก และสัมผัสงานดีไซน์ร่วมกันบนทัศนียภาพที่เจิดจรัสของกรุงเทพฯ
       นอกจากนี้จะรุกตลาดผ่านช่องทางมีเดียมากขึ้น ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีฐานลูกค้าและแผนการตลาดที่แตกต่างจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
       อย่างไรก็ตามในปี 2559 นี้บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตไว้เพียง 5% เนื่องจากเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง  รายได้คงยังคงที่ 400–450 ล้านบาท แต่ในอนาคตอีก2 ปี คาดว่าธุรกิจสายรีเทล ไลฟ์สไตล์จะเป็นตัวแปรในการรุกตลาดของบริษัทและเพิ่มสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้น 20-25% หรือประมาณ100 ล้านบาท


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น